วิธีเตรียมเอกสารยื่นภาษีสำหรับ “ร้านค้า” แบบเข้าใจง่าย ทำตามได้ทันที
ต่อไปนี้คือรายการเอกสารที่ร้านค้าต้องเตรียมเพื่อยื่นภาษีอย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงโดนตรวจ เพิ่มโอกาสวางแผนภาษีได้ดีขึ้น โดยเรียงลำดับเป็นขั้นตอนชัดเจน
1) เอกสารรายได้ (Revenue Documents)
ร้านค้าทุกรูปแบบต้องมีหลักฐาน “รายได้” ที่ชัดเจน
ตัวอย่างเอกสารที่ควรมี
-
ใบกำกับภาษีขาย (เต็มรูป / อย่างย่อ)
-
ใบเสร็จรับเงิน
-
สรุปรายรับประจำวันจากระบบ POS /ยอดขายจากแอป
-
Statement ยอดขายจากแพลตฟอร์ม เช่น Shopee, Lazada, Facebook, Line OA
-
รายงานยอดโอนเข้าบัญชีธนาคารธุรกิจ
เคล็ดลับ:
ควรแยกรายได้เป็นหมวด เช่น เงินสด/โอน/พร้อมเพย์/เก็บปลายทาง เพื่อง่ายต่อการกระทบยอด
2) เอกสารรายจ่าย (Expense Documents)
ภาษีลดได้ถ้ามี “หลักฐานค่าใช้จ่าย” ครบและเป็นของกิจการจริง
ตัวอย่างค่าใช้จ่ายที่ร้านค้าควรรวบรวม
-
ใบกำกับภาษีซื้อ (มี VAT หักได้)
-
ใบเสร็จค่าเช่าร้าน / ค่าเช่าโกดัง
-
ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์
-
ค่าวัตถุดิบ/ต้นทุนสินค้า
-
ค่าแรงพนักงาน (พร้อมเอกสารเงินเดือน/ประกันสังคม)
-
ค่าส่งสินค้า / ค่าบริการขนส่ง
-
ค่าทำการตลาดออนไลน์ / โฆษณา Facebook Ads, Google Ads
-
ค่าบัญชีและค่าปรึกษาภาษี
เคล็ดลับ:
พยายามขอ “ใบกำกับภาษีเต็มรูป” ทุกครั้ง เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายได้เต็มจำนวน
3) เอกสารทางการเงิน (Financial Documents)
ใช้ประกอบการยื่นภาษีรายปีและยืนยันตัวเลขสำคัญ
ต้องเตรียม
-
Statement ธนาคาร ทั้งปี
-
รายงานบัญชีเงินสด/รายรับ–รายจ่าย
-
รายการสินค้าคงเหลือปลายปี (Stock Count)
-
รายงานเจ้าหนี้/ลูกหนี้คงค้าง
เหตุผล:
ช่วยตรวจสอบยอดขายจริงเทียบยอดเงินเข้า อุดช่องโหว่ที่สรรพากรใช้ตรวจสอบบ่อย
4) เอกสารภาษีซื้อ–ภาษีขายสำหรับ VAT (เฉพาะผู้จด VAT)
หากร้านค้าจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ต้องจัดชุดเอกสารเฉพาะ
เอกสารสำคัญ
-
รายงานภาษีขาย (ยอดขาย + VAT)
-
รายงานภาษีซื้อ (ค่าใช้จ่ายที่มี VAT)
-
ภ.พ.30 รายเดือน
-
แบบ ภ.พ.36 (ถ้ามีใช้บริการต่างประเทศ เช่น โฆษณา Facebook/Google)
5) สัญญาและเอกสารประกอบกิจการ (Supporting Documents)
หลายร้านค้าไม่เก็บ ทำให้ “ค่าใช้จ่ายถูกตีกลับ”
ควรมี
-
สัญญาเช่า
-
สัญญาจ้างงาน
-
สัญญาซื้อขาย / ใบเสนอราคา
-
หลักฐานการชำระเงิน เช่น สลิป โอนเงิน
6) เอกสารสำหรับยื่นภาษีประจำปี
ขึ้นกับรูปแบบธุรกิจ
▸ ร้านค้าจดทะเบียนบริษัท
ต้องใช้:
-
งบการเงินประจำปี (Audit)
-
ภ.ง.ด.50 + ภ.ง.ด.51
-
รายงานประกอบงบการเงิน
▸ ร้านค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา/เจ้าของเดียว
ต้องใช้:
-
รายได้–ค่าใช้จ่ายตามจริง หรือแบบเหมา (ขึ้นกับประเภท)
-
สรุปรายได้ต่อปี
-
ภ.พ.94 และ ภ.พ.90
7) วิธีจัดระบบเอกสารแบบง่าย ทำครั้งเดียวใช้งานได้ทั้งปี
-
แยกโฟลเดอร์: รายได้ / รายจ่าย / VAT / ธนาคาร / สัญญา
-
เก็บไฟล์ใน Google Drive พร้อมวันที่ เช่น “2025-01 ภาษีซื้อ–VAT”
-
ใช้ Google Sheet บันทึกยอดขาย–ค่าใช้จ่ายทุกวัน
-
ปิดบัญชีร้านทุกสิ้นเดือน ตรวจ Statement กับยอดขายให้ตรงกัน
8) ข้อผิดพลาดที่ร้านค้าทำบ่อย (และทำให้เสียภาษีเยอะเกิน)
-
เก็บเอกสารไม่ครบ ไม่มีใบกำกับภาษี
-
ใช้บัญชีส่วนตัวปนกับบัญชีร้าน
-
ค่าใช้จ่ายไม่มีความเกี่ยวข้องกับกิจการ
-
ไม่บันทึกรายรับ/รายจ่ายรายวัน
-
เข้าใจผิดว่าขายออนไลน์ไม่ต้องยื่นภาษี
-
ไม่เคยนับสต็อกปลายปี ทำให้ต้นทุนผิดเพี้ยน